10 ข้อผิดพลาดที่นักลงทุนและเทรดเดอร์มือใหม่มักทำ
10 ข้อผิดพลาดที่นักลงทุนและเทรดเดอร์มือใหม่มักทำ
มีคำกล่าวที่ผู้เขียนชื่นชอบและยึดเป็นคติประจำใจว่า “ความผิดพลาดคือบทเรียนที่มีราคาสูงที่สุด แต่เป็นครูที่ดีที่สุด” แน่นอนว่าเราไม่จำเป็นต้องทำผิดพลาดเองเพื่อที่จะเรียนรู้ (แม้จะเป็นวิธีเรียนรู้ที่ได้ผลมากก็ตาม) เพราะเราสามารถเรียนรู้จากความผิดพลาดของผู้อื่น และนำบทเรียนเหล่านั้นมาใช้ให้เกิดประโยชน์กับตัวเราเองได้ ในบทความนี้ เราได้รวบรวมข้อผิดพลาด 10 ข้อที่น่าจะเป็นบทเรียนที่ดีสำหรับผู้ที่เริ่มเข้าสู่โลกการลงทุน
1. คาดหวังผลตอบแทนที่ไม่สมจริง
การคาดหวังผลตอบแทนที่ไม่สมจริงเป็นหลุมพรางที่พบบ่อยในหมู่นักลงทุนมือใหม่ ความต้องการกำไรจำนวนมากอย่างรวดเร็ว อาจนำไปสู่การตัดสินใจที่ไม่รอบคอบ เช่น การลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงเกินไป หรือการซื้อขายบ่อยเกินไป ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดการขาดทุน แทนที่จะหวังรวยทางลัด ควรตั้งเป้าหมายที่เหมาะสมกับสภาพตลาดและวางแผนการลงทุนอย่างรอบคอบ การศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดและการทำความเข้าใจความเสี่ยงที่ตัวเองยอมรับได้ จะช่วยให้การลงทุนมีประสิทธิภาพมากขึ้น การค่อยๆ สะสมประสบการณ์มีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จมากกว่าการเร่งรัดเพื่อหวังผลลัพธ์เร็วเกินไป
2. ขาดเป้าหมายการลงทุนที่ชัดเจน
การไม่มีเป้าหมายการลงทุนที่ชัดเจนเป็นปัญหาใหญ่สำหรับนักลงทุนมือใหม่ หากไม่มีเป้าหมายที่เจาะจง การตัดสินใจลงทุนมักจะไร้ทิศทาง ทำให้ยากต่อการประเมินว่าการลงทุนนั้นประสบความสำเร็จหรือไม่ นักลงทุนควรตั้งเป้าหมายระยะสั้นและระยะยาวให้ชัดเจน เช่น ผลตอบแทนที่ต้องการในแต่ละช่วงเวลา และระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ การมีเป้าหมายที่ชัดเจนจะช่วยให้สามารถวางแผนการลงทุนได้ดีขึ้น เลือกสินทรัพย์ที่เหมาะสม และปรับกลยุทธ์ได้ทันทีเมื่อผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามคาด ดังนั้นก่อนเริ่มลงทุน ควรใช้เวลาในการคิดและเขียนเป้าหมายส่วนตัวออกมาให้ชัดเจนเสมอ
3. ให้ความสำคัญกับผลลัพธ์ระยะสั้นมากเกินไป
การให้ความสำคัญกับผลลัพธ์ระยะสั้นมากเกินไปเป็นกับดักของนักลงทุนมือใหม่ พวกเขามักมองข้ามโอกาสที่ดีซึ่งอาจนำไปสู่การเติบโตในอนาคต เพราะสนใจแต่กำไรระยะสั้น นักลงทุนมือใหม่มักใช้อารมณ์ในการซื้อขายสูง ซึ่งเสี่ยงต่อการขาดทุนหนัก และเมื่อขาดทุน อาจพลาดโอกาสที่จะเติบโตจากบริษัทที่มีพื้นฐานดี นักลงทุนควรพิจารณาโอกาสทั้งในการทำกำไรอย่างรวดเร็วและการเติบโตอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยการชั่งน้ำหนักระหว่างความเสี่ยงกับผลตอบแทนอย่างรอบคอบ อย่ารีบเร่งจนเกินไป แต่ก็อย่ารอนานจนพลาดโอกาสที่ดี
4. พึ่งพาอินดิเคเตอร์มากเกินไปโดยไม่เรียนรู้การวิเคราะห์ราคา
สำหรับเทรดเดอร์ที่ทำการซื้อขายบ่อย การพึ่งพาอินดิเคเตอร์มากเกินไปโดยไม่เรียนรู้การวิเคราะห์พฤติกรรมราคาหรือ Price Action เป็นข้อผิดพลาดที่พบบ่อย อินดิเคเตอร์บางตัวอาจไม่แสดงสัญญาณบางอย่างที่การเคลื่อนไหวของราคาสามารถบอกได้ ทำให้พลาดโอกาสในการซื้อขาย นอกจากนี้ การใช้เพียงอินดิเคเตอร์โดยไม่เข้าใจพฤติกรรมที่แท้จริงของราคา อาจนำไปสู่การวิเคราะห์ผิดพลาดและการตัดสินใจที่ไม่ดี ดังนั้นนักลงทุนควรเรียนรู้การวิเคราะห์พฤติกรรมราคาควบคู่กับการใช้อินดิเคเตอร์ เพื่อให้ได้มุมมองที่ครบถ้วนและแม่นยำยิ่งขึ้น วิธีนี้สามารถเพิ่มโอกาสในการทำกำไรจากการลงทุนในตลาดได้
5. การซื้อขายเกินความจำเป็น (Overtrading)
ความวิตกกังวลหรือความโลภอาจผลักดันให้เราซื้อขายบ่อยเกินไป การซื้อขายที่มากเกินไป โดยเฉพาะในสภาวะตลาดที่มีความผันผวน อาจนำไปสู่ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นและค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น การซื้อขายที่ถี่เกินไปยังอาจทำให้เกิดการตัดสินใจที่ไม่ดี ซึ่งเกิดจากอารมณ์ชั่ววูบแทนที่จะยึดตามกลยุทธ์ที่วางไว้ วิธีแก้ปัญหาคือการมีกลยุทธ์การซื้อขายที่ชัดเจนและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ตั้งเป้าหมาย จุดเข้าซื้อและขาย รวมถึงแผนการจัดการความเสี่ยงล่วงหน้าเพื่อหลีกเลี่ยงการตัดสินใจที่เร่งด่วน การซื้อขายด้วยวินัยและความอดทนจะช่วยลดความผันผวนในพอร์ตการลงทุนได้
6. การประเมินความเสี่ยงผิดพลาด: รับความเสี่ยงมากเกินไปหรือระวังมากเกินไป
การรับความเสี่ยงที่มากเกินไปอาจนำไปสู่การขาดทุนที่รุนแรง ในขณะที่การระมัดระวังเกินไปอาจทำให้พลาดโอกาสในการทำกำไร วิธีแก้คือหาสมดุลโดยคำนึงถึงเป้าหมายการลงทุน วิเคราะห์สภาวะตลาด และกระจายความเสี่ยงอย่างเหมาะสม นอกจากนี้ ควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด วิเคราะห์ปัจจัยต่าง ๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อการลงทุน และปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลง การจัดการความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพช่วยให้นักลงทุนสามารถรับมือกับความผันผวนและบรรลุเป้าหมายทางการเงินได้อย่างมั่นคง
7. ซื้อในราคาสูงและขายในราคาต่ำจากการตัดสินใจด้วยอารมณ์
ปกติแล้วเราตั้งเป้าหมายซื้อในราคาต่ำและขายในราคาสูงเพื่อทำกำไร แต่การซื้อในราคาสูงและขายในราคาต่ำมักเกิดขึ้นในตลาด โดยสาเหตุส่วนใหญ่มาจากการตัดสินใจด้วยอารมณ์ โดยเฉพาะความกลัวและความโลภ ซึ่งส่งผลต่อพฤติกรรมการลงทุน เช่น การรีบซื้อเมื่อราคาสูงขึ้นเพราะกลัวพลาดโอกาส หรือการขายทิ้งเมื่อราคาลดลงเพราะความตื่นตระหนก ทำให้เกิดการขาดทุนที่ไม่จำเป็น แทนที่จะเป็นเช่นนั้น นักลงทุนควรมีแผนการลงทุนที่ชัดเจน ยึดมั่นในหลักการ วิเคราะห์ข้อมูลอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจ และไม่ให้อารมณ์ชั่ววูบมาบดบังการตัดสินใจ
8. การซื้อขายตามคำแนะนำของเพื่อนหรือคนรู้จัก
การซื้อขายตามคำแนะนำของเพื่อนหรือคนรู้จักเป็นข้อผิดพลาดสำคัญที่นักลงทุนมือใหม่มักทำเมื่อเข้าตลาดโดยไม่มีความรู้เพียงพอ พวกเขาไม่สามารถประเมินได้ว่าความรู้ของเพื่อนมีความน่าเชื่อถือเพียงใด ทางที่ดีควรเรียนรู้พื้นฐานการลงทุนและอย่างน้อยควรเข้าใจว่ากลยุทธ์ของเพื่อนคืออะไร เขาวิเคราะห์อย่างไร และมีการยอมรับความเสี่ยงในระดับใด
หากขาดการวิเคราะห์และตัดสินใจด้วยตัวเอง คุณอาจลงทุนในสิ่งที่ไม่เหมาะสมกับสถานะทางการเงินหรือระดับความเสี่ยงของคุณ แม้คำแนะนำจากคนรู้จักอาจฟังดูน่าเชื่อถือ แต่มันไม่ได้รับประกันผลลัพธ์ที่ดี ก่อนลงทุน ควรศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลด้วยตัวเองอย่างละเอียด แทนที่จะฟังคนอื่นเพียงอย่างเดียว
9. การแยกแยะข้อมูลสำคัญและข้อมูลรบกวนไม่ได้
การไม่สามารถแยกแยะระหว่างข้อมูลสำคัญและข้อมูลรบกวนเป็นปัญหาที่พบบ่อยในหมู่นักลงทุนมือใหม่ ท่ามกลางข้อมูลทางการเงินที่มีอยู่มากมาย การตัดสินใจที่ไม่ดีอาจเกิดขึ้นได้ง่ายหากไม่มีการคัดกรองข้อมูลอย่างเหมาะสม นักลงทุนอาจเสียเวลาและพลังงานไปกับข่าวลือหรือความคิดเห็นที่ไม่เกี่ยวข้อง แทนที่จะมุ่งเน้นไปที่ปัจจัยพื้นฐานและข้อมูลที่มีผลกระทบต่อการลงทุนจริง ๆ ดังนั้น ควรฝึกทักษะในการแยกแยะและวิเคราะห์ข้อมูล นักลงทุนที่ดีควรเรียนรู้ที่จะมุ่งเน้นเฉพาะข้อมูลที่เกี่ยวข้องโดยตรง และไม่หลงไปกับแนวโน้มหรือข่าวสารที่ไม่ส่งผลต่อการตัดสินใจ
10. การวิเคราะห์ตลาดด้วยกรอบเวลาเดียว
คำแนะนำสำหรับนักลงทุน: การวิเคราะห์ตลาดโดยใช้กรอบเวลาเดียวเป็นข้อผิดพลาดที่มักถูกมองข้าม สิ่งนี้อาจทำให้คุณพลาดสัญญาณหรือแนวโน้มที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาอื่น ๆ การมองแค่แง่มุมเดียวขาดการมองภาพรวมของตลาดอย่างครอบคลุม ซึ่งอาจนำไปสู่การตัดสินใจที่ผิดพลาด ควรพิจารณากรอบเวลาหลายกรอบพร้อมกัน เช่น รายวัน รายสัปดาห์ และรายเดือน เพื่อให้ได้ภาพรวมของตลาดที่ชัดเจนขึ้น การดูกรอบเวลาหลาย ๆ กรอบช่วยให้เข้าใจพฤติกรรมราคาที่ดียิ่งขึ้น
บทสรุป
การลงทุนที่ดีที่สุดและให้ผลตอบแทนสูงสุดในระยะยาวคือการลงทุนในตัวเอง ก่อนเริ่มลงทุนในตลาดการเงิน เราควรพัฒนาความรู้ทางการเงินและการลงทุน ศึกษาหลักการพื้นฐาน กลยุทธ์ และเครื่องมือต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการตัดสินใจลงทุน เรียนรู้ที่จะวิเคราะห์ข้อมูลอย่างมีเหตุผลและควบคุมอารมณ์ไม่ให้มีผลต่อการตัดสินใจ อย่าลืมรักษาสุขภาพกายและใจให้มั่นคง เพราะสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้คุณลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด