การเทรดในตลาดขาลง: วิธีทำกำไรด้วย Short Selling

การเทรดในตลาดขาลง: วิธีทำกำไรด้วย Short Selling

ระดับกลาง
Dec 18, 2024
เรียนรู้วิธีทำกำไรในตลาดขาลงด้วย Short Selling พร้อมกลยุทธ์ ตัวอย่าง และเคล็ดลับสำหรับการเทรดในตลาดคริปโตอย่างมีประสิทธิภาพ

การเทรดในตลาดขาลง: วิธีทำกำไรด้วย Short Selling

 

ในช่วงที่ตลาดการเงินและคริปโตเผชิญกับความผันผวน ตลาดขาลง (Bear Market) มักจะสร้างความกังวลให้กับนักลงทุนหลายคน เพราะสินทรัพย์ส่วนใหญ่มักจะสูญเสียมูลค่าไปตามแรงกดดันของตลาด แต่สำหรับนักเทรดที่มองเห็นโอกาสในทุกสถานการณ์ "การขายชอร์ต" (Short Selling) กลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้พวกเขาสามารถทำกำไรได้ แม้ในช่วงที่ราคาสินทรัพย์ดิ่งลง

บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับกลยุทธ์ Short Selling อย่างละเอียด พร้อมแนะนำวิธีการใช้งานในตลาดคริปโตเพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนอย่างมืออาชีพ

 


 

Short Selling คืออะไร?

Short Selling หรือการขายชอร์ต เป็นกลยุทธ์ที่นักเทรดใช้ทำกำไรจากการคาดการณ์ว่าราคาของสินทรัพย์จะลดลง หลักการง่ายๆก็คือ "ยืมสินทรัพย์มาขายในราคาปัจจุบัน และซื้อคืนเมื่อราคาลดลง" ส่วนต่างของราคาขายและราคาซื้อคืนก็คือกำไรนั่นเอง

ตัวอย่างการขายชอร์ต

  • คุณยืม Bitcoin 1 เหรียญจากโบรกเกอร์ในราคาตลาด $90,000 และขายทันที
  • เมื่อราคาลดลงเหลือ $85,000 คุณซื้อ Bitcoin 1 เหรียญเพื่อคืนให้โบรกเกอร์
  • กำไรที่คุณได้รับคือ $5,000 (ไม่รวมค่าธรรมเนียมและดอกเบี้ย)

การขายชอร์ตได้รับความนิยมในตลาดที่มีความผันผวน เช่น ตลาดคริปโต เนื่องจากราคาของสินทรัพย์ดิจิทัลมักเคลื่อนไหวรุนแรงและเร็ว

 


 

การทำงานของ Short Selling ในตลาดคริปโต

ในตลาดคริปโต การขายชอร์ต (Short Selling) เป็นกลยุทธ์ที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถทำกำไรจากการลดลงของราคาสินทรัพย์ การทำ Short Selling สามารถดำเนินการได้ผ่านแพลตฟอร์มการเทรดที่มีบริการฟีเจอร์นี้ เช่น Bybit, Bitfinex หรือแพลตฟอร์มที่ได้รับการควบคุมและน่าเชื่อถืออย่าง IUX ซึ่งเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่มองหามั่นคงและความปลอดภัย

 

วิธีที่นิยมสำหรับการทำ Short Selling

1. Margin Trading

การขายชอร์ตผ่าน Margin Trading หมายถึงการยืมสินทรัพย์จากโบรกเกอร์ เช่น Bitcoin หรือ Ethereum เพื่อนำไปขายในราคาปัจจุบัน โดยคาดหวังว่าราคาจะลดลงในอนาคต จากนั้นนักลงทุนจะซื้อสินทรัพย์คืนในราคาที่ต่ำกว่าและคืนสินทรัพย์ให้โบรกเกอร์ พร้อมรับส่วนต่างเป็นกำไร

2. Futures Trading

อีกวิธีหนึ่งคือการเปิดสัญญา Short Position ผ่านตลาดฟิวเจอร์ส ซึ่งนักเทรดไม่จำเป็นต้องยืมสินทรัพย์จริง แต่สามารถทำกำไรจากการคาดการณ์ว่าราคาสินทรัพย์จะลดลง การเทรดฟิวเจอร์สเหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการเข้าถึงการเคลื่อนไหวของตลาดโดยใช้ต้นทุนที่ต่ำกว่า

 

IUX กับการทำ Short Selling

แพลตฟอร์ม IUX ให้บริการการเทรดสินทรัพย์ดิจิทัลที่หลากหลาย ด้วยระบบที่ใช้งานง่ายและค่าธรรมเนียมต่ำ นอกจากนี้ IUX ยังมีการควบคุมโดยหน่วยงานทางการเงิน ซึ่งช่วยให้นักลงทุนมั่นใจได้ถึงความปลอดภัยและความโปร่งใสในทุกการทำธุรกรรม

 


 

ข้อดีของ Short Selling

  • ทำกำไรได้ในตลาดขาลง
    การขายชอร์ตช่วยให้นักเทรดมีโอกาสทำกำไรได้ในทุกสภาวะตลาด ไม่ว่าจะเป็นตลาดขาขึ้นหรือลง

  • เพิ่มความยืดหยุ่นให้กับกลยุทธ์การเทรด
    Short Selling ทำให้พอร์ตการลงทุนสามารถปรับตัวตามสภาพตลาด และสร้างโอกาสในการทำกำไรเพิ่มเติม

  • ป้องกันความเสี่ยง (Hedging)
    สำหรับนักลงทุนที่ถือครองสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น Bitcoin หรือ Ethereum การขายชอร์ตสามารถช่วยลดผลกระทบจากการขาดทุนในช่วงที่ตลาดดิ่งลง

 


 

ความเสี่ยงของ Short Selling

  • การขาดทุนไม่จำกัด
    หากราคาสินทรัพย์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การขาดทุนอาจไม่มีขีดจำกัด ซึ่งแตกต่างจากการถือสินทรัพย์ที่ความเสี่ยงจำกัดอยู่ที่เงินที่ลงทุนไป

  • ต้นทุนที่เพิ่มขึ้น
    การขายชอร์ตมักมาพร้อมกับดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมการยืมสินทรัพย์

  • ความผันผวนในตลาดคริปโต
    ตลาดคริปโตมีความผันผวนสูง ทำให้นักเทรดที่เปิด Short Position มีโอกาสถูกบังคับปิดสถานะ (Liquidation) หากราคากลับตัวอย่างรวดเร็ว

 


 

กลยุทธ์การขายชอร์ตในตลาดคริปโต

  • ใช้แนวต้านและแนวรับ (Resistance and Support)
    การขายชอร์ตในช่วงที่ราคาขึ้นไปชนแนวต้านสำคัญ และมีสัญญาณกลับตัว สามารถช่วยเพิ่มความแม่นยำในการเข้าเทรด

  • ติดตามข่าวสารที่ส่งผลต่อราคา (News Trading)
    ตลาดคริปโตตอบสนองต่อข่าวสารอย่างรวดเร็ว เช่น การประกาศนโยบายจากรัฐบาลหรือการแบนคริปโต

  • การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis)

    • ใช้ RSI (Relative Strength Index) เพื่อหาจุดที่ราคา Overbought
    • ใช้ Moving Average หรือ Fibonacci Retracement เพื่อหาแนวต้านที่สำคัญ
  • ตั้งค่า Stop-Loss และ Take-Profit
    การตั้งจุดตัดขาดทุน (Stop-Loss) และจุดทำกำไร (Take-Profit) ช่วยลดความเสี่ยงจากความผันผวน

  • เริ่มต้นด้วยเลเวอเรจต่ำ
    แม้เลเวอเรจสามารถเพิ่มผลตอบแทนได้ แต่ก็เพิ่มความเสี่ยงด้วย ควรเริ่มต้นด้วยเลเวอเรจต่ำเพื่อควบคุมความเสี่ยง

 


 

Short Selling เหมาะกับใคร?

Short Selling หรือการขายชอร์ต เป็นเครื่องมือที่เหมาะสำหรับนักลงทุนและนักเทรดที่มีความเข้าใจในตลาดและมองหาวิธีจัดการความเสี่ยงในสถานการณ์ต่าง ๆ โดยเฉพาะในตลาดขาลง นักลงทุนที่มีประสบการณ์ในด้านการวิเคราะห์ตลาดและการจัดการความเสี่ยงจะสามารถใช้กลยุทธ์นี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยความรู้ที่ลึกซึ้ง พวกเขาสามารถวิเคราะห์แนวโน้มและตัดสินใจได้อย่างแม่นยำว่าควรเข้าและออกจากตลาดเมื่อใด

สำหรับนักลงทุนที่ต้องการป้องกันความเสี่ยง หรือ Hedgers การขายชอร์ตเป็นวิธีที่ดีในการลดผลกระทบจากตลาดขาลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวอย่างเช่น หากนักลงทุนถือครองสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น Bitcoin หรือ Ethereum อยู่ การเปิดสถานะ Short Position ในตลาดสามารถช่วยชดเชยความสูญเสียในช่วงที่ราคาสินทรัพย์ลดลง

ในขณะเดียวกัน Short Selling ยังเหมาะกับนักเทรดระยะสั้นที่ต้องการสร้างกำไรจากความผันผวนในช่วงเวลาสั้น ๆ กลยุทธ์นี้ช่วยให้นักเทรดสามารถเก็งกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นลักษณะเด่นของตลาดคริปโต อย่างไรก็ตาม การใช้กลยุทธ์นี้จำเป็นต้องอาศัยความรอบคอบและการตั้งค่าการจัดการความเสี่ยงอย่างเข้มงวดเพื่อป้องกันการขาดทุนในกรณีที่ตลาดมีการกลับตัวแบบไม่คาดคิด

 


 

ตัวอย่างการขายชอร์ตในตลาดคริปโต

สมมติว่า Ethereum มีแนวโน้มขาลง:

หลังจากการวิเคราะห์ตลาด คุณคาดการณ์ว่าราคาของ Ethereum จะลดลง และตัดสินใจใช้กลยุทธ์ Short Selling เพื่อทำกำไรจากการลดลงของราคา

ขั้นตอนก็คือ

  1. เปิด Short Position ที่ราคา $2,000:
    คุณเปิดสถานะขายชอร์ต (Short Position) ที่ราคา $2,000 โดยเป็นการยืม Ethereum จากแพลตโบรกเกอร์ เช่น IUX เพื่อนำไปขายในราคาปัจจุบัน

  2. ใช้ RSI เพื่อยืนยันโซน Overbought:
    ก่อนเปิดสถานะ คุณใช้ตัวชี้วัด RSI (Relative Strength Index) เพื่อวิเคราะห์โมเมนตัมของราคา หาก RSI มีค่ามากกว่า 70 แสดงถึงโซน Overbought (ซื้อเกิน) ซึ่งเป็นสัญญาณว่าราคาของสินทรัพย์มีโอกาสปรับตัวลดลง

  3. ราคาลดลงถึง $1,800:
    เมื่อราคาของ Ethereum ลดลงจาก $2,000 เหลือ $1,800 ตามที่คาดการณ์ไว้ คุณจึงปิดสถานะ (Close Position)

  4. ปิดสถานะและทำกำไร:
    เมื่อปิดสถานะ เท่ากับว่าคุณได้ซื้อ Ethereum คืนในราคาที่ต่ำกว่า ($1,800) และคืนสินทรัพย์ที่ยืมมาให้กับโบรกเกอร์ ส่วนต่างระหว่างราคาเปิด ($2,000) และราคาปิด ($1,800) คิดเป็นกำไรของคุณ $200 ต่อ การเทรดในครั้งนั้น

 


 

สรุป: การขายชอร์ตในตลาดขาลง

Short Selling เป็นเครื่องมือที่มีศักยภาพในการทำกำไรในตลาดขาลง แต่ต้องอาศัยความรู้ ความเข้าใจ และการจัดการความเสี่ยงอย่างมีวินัย การวิเคราะห์ตลาด การตั้งค่าการป้องกันความเสี่ยง เช่น Stop-Loss และการติดตามข่าวสารที่ส่งผลต่อราคา เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้นักเทรดสามารถใช้กลยุทธ์นี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

หากคุณเป็นนักเทรดที่ต้องการเพิ่มโอกาสในการทำกำไรในทุกสภาวะตลาด การเรียนรู้และเข้าใจ Short Selling จะเป็นหนึ่งในทักษะที่สำคัญที่ช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในโลกของการเทรดคริปโต