1,000 ล้านดอลลาร์ ในวันเดียว : จอร์จ โซรอสใช้ Leverage อย่างไร?

1,000 ล้านดอลลาร์ ในวันเดียว : จอร์จ โซรอสใช้ Leverage อย่างไร?

ขั้นสูง
Oct 31, 2024
เจาะลึกเรื่องราวที่น่าทึ่งของ George Soros ผู้ซึ่งสร้างกำไรมหาศาลถึง 1 พันล้านดอลลาร์ภายในวันเดียวด้วยการใช้ Leverage บทความนี้จะอธิบายกลยุทธ์ ความเสี่ยง และวิธีการที่เขาใช้ เพื่อให้เห็นถึงพลังของ Leverage ในการลงทุน

1,000 ล้านดอลลาร์ ในวันเดียว : จอร์จ โซรอสใช้ Leverage อย่างไร?

 

จอร์จ โซรอส (George Soros) เป็นหนึ่งในนักลงทุนที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก และเหตุการณ์ที่ทำให้เขากลายเป็นที่รู้จักในวงกว้างที่สุดคือการทำเงินมากกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ในวันเดียวจากการเก็งกำไรค่าเงินปอนด์อังกฤษในปี 1992

 

เหตุการณ์นี้เรียกว่า Black Wednesday ซึ่งโซรอสได้ใช้กลยุทธ์ทางการเงินและการใช้ Leverage หรือการกู้ยืมเงินเพื่อเพิ่มขนาดการลงทุนเพื่อทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของค่าเงินปอนด์อังกฤษ บทความนี้จะอธิบายอย่างละเอียดถึงวิธีการที่โซรอสสามารถทำกำไรได้มากมายในช่วงเวลาสั้นๆ นี้

 

Billionaire investor George Soros

Billionaire investor George Soros Foto: ? Yuri Gripas / Reuters/ REUTERS

 

ความเป็นมาของเหตุการณ์ Black Wednesday |

 

ในช่วงปี 1992 สหราชอาณาจักรเข้าร่วมในระบบกลไกอัตราแลกเปลี่ยนยุโรป (European Exchange Rate Mechanism หรือ ERM) ระบบนี้ถูกออกแบบมาเพื่อรักษาเสถียรภาพของอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างสกุลเงินยุโรปหลายๆ ประเทศเข้าด้วยกัน โดยการควบคุมการเคลื่อนไหวของค่าเงินให้ไม่ผันผวนมากเกินไปก่อนที่จะควบรวมเป็นสกุลเงิน Euro ในปี 1999

 

หนึ่งในข้อกำหนดของ ERM คือ ประเทศสมาชิกต้องพยายามรักษาค่าเงินของตนให้อยู่ในกรอบอัตราแลกเปลี่ยนที่แน่นอนกับสกุลเงินหลัก เช่น เยอรมันมาร์ก (Deutsche Mark) ซึ่งในขณะนั้นเป็นสกุลเงินที่แข็งค่ามากที่สุดในยุโรป การรักษาค่าเงินปอนด์ให้อยู่ในระดับที่สูงกว่าตลาดต้องการ ส่งผลให้รัฐบาลอังกฤษต้องใช้อัตราดอกเบี้ยที่สูงเพื่อดึงดูดนักลงทุนให้ถือครองเงินปอนด์ 

 

แต่ปัญหาคือ สถานะทางเศรษฐกิจของอังกฤษในเวลานั้นไม่ค่อยแข็งแกร่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ซบเซา และอัตราเงินเฟ้อ อีกทั้งจะลดดอกเบี้ยก็ทำไม่ได้ เนื่องจากเข้าร่วม ERM ไปแล้ว ทำให้อังกฤษต้องตรึงค่าเงินเอา

 

 

| การคาดการณ์ของจอร์จ โซรอส |

โซรอสตระหนักดีว่าเศรษฐกิจของอังกฤษไม่สามารถรักษามูลค่าของปอนด์ไว้ได้ภายใต้กรอบ ERM ในระยะยาว เขาเห็นว่าความพยายามของรัฐบาลในการรักษามูลค่าของปอนด์ให้สูงเกินจริงจะนำไปสู่แรงกดดันที่เพิ่มขึ้น ทั้งจากเงินเฟ้อและการขาดดุลการค้า ยิ่งไปกว่านั้น อัตราดอกเบี้ยที่สูงยังทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจของอังกฤษแย่ลงไปอีก

 

จากการวิเคราะห์นี้ โซรอสจึงตัดสินใจด้วยการ Short Sell เงินปอนด์ในปริมาณมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เขาคาดการณ์ว่าในที่สุดรัฐบาลอังกฤษจะต้องยอมแพ้และปล่อยให้ปอนด์อ่อนค่าลง เมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้น โซรอสจะสามารถซื้อปอนด์ที่เขาขายไปก่อนหน้านี้กลับมาในราคาที่ต่ำกว่า โดยทำกำไรจากส่วนต่างนั้น

 

 

 

| กลยุทธ์การใช้ Leverage |

หนึ่งในปัจจัยที่ทำให้โซรอสสามารถทำกำไรได้มากในช่วงเวลาสั้นๆ คือการใช้ Leverage ซึ่งก็คือการกู้ยืมเงินเพื่อเพิ่มมูลค่าการลงทุน โดยในกรณีนี้ โซรอสยืมเงินจำนวนมากจากสถาบันการเงินทั่วโลกเพื่อทำการขายเงินปอนด์ล่วงหน้า เพื่อขายให้กับธนาคารกลางอังกฤษ โดยโซรอสยืมเงินมากกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในการลงทุนครั้งนี้

 

Leverage ช่วยให้โซรอสสามารถเพิ่มขนาดการลงทุนของเขาได้มากกว่าเงินทุนที่เขามีจริงๆ หลายเท่า หากการคาดการณ์ของเขาถูกต้อง ผลตอบแทนจะทวีคูณขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน หากการคาดการณ์ผิดพลาด Leverage ก็อาจทำให้เขาขาดทุนมหาศาลได้เช่นกัน

 

 

 

| เหตุการณ์วันที่ 16 กันยายน 1992 |

 

เมื่อถึงวันที่ 16 กันยายน 1992 หรือวันที่กลายมาเป็นที่รู้จักในนาม Black Wednesday ธนาคารกลางอังกฤษ (Bank of England) ต้องต่อสู้เพื่อรักษาค่าเงินปอนด์ให้อยู่ในระดับที่กำหนดในระบบ ERM โดยอังกฤษพยายามซื้อเงินปอนด์ในตลาดเพื่อพยุงค่าเงินปอนด์ไว้ 

 

ดังนั้น โซรอสจึงกู้ยืมเงินปอนด์จากสถาบันการเงินอื่นๆ แล้วนำมาขายต่อให้กับธนาคารกลางอังกฤษในราคาสูงไปเรื่อยๆ

 

อย่างไรก็ตาม ตลาดเริ่มไม่เชื่อมั่นในศักยภาพของธนาคารกลางอังกฤษแล้ว และมีการเก็งกำไรอย่างหนักในตลาดฟอเร็กซ์ว่าเงินปอนด์จะต้องอ่อนตัวลง

 

หลังจากนั้นไม่นานก็เป็นไปตามคาด รัฐบาลอังกฤษจึงตัดสินใจถอนตัวจากระบบ ERM และปล่อยให้ค่าเงินปอนด์อ่อนค่าลงอย่างรวดเร็ว

 

โซรอส ผู้ซึ่งได้เริ่มทำการขายเงินปอนด์ในราคาสูงล่วงหน้ามาก่อนแล้ว กำลังเฝ้ารอจังหวะนี้เพื่อทำกำไร

 

 

 

| ผลลัพธ์และการทำกำไร |

หลังจากรัฐบาลอังกฤษประกาศถอนตัวออกจากระบบ ERM ค่าเงินปอนด์ร่วงลงทันที ทำให้โซรอสสามารถซื้อเงินปอนด์คืนในราคาที่ต่ำกว่าที่เขาขายไว้ก่อนหน้านี้ ด้วยการใช้ Leverage ขนาดใหญ่ โซรอสสามารถทำกำไรมากกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ ในเวลาเพียงหนึ่งวัน การเก็งกำไรครั้งนี้ทำให้เขาได้รับฉายาว่า “ชายผู้ทำลายธนาคารกลางอังกฤษ”

 

 

 

| บทเรียนจากการลงทุนครั้งนี้ |

การลงทุนของโซรอสใน Black Wednesday เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของพลังของ Leverage เมื่อใช้ในสภาวะที่ถูกต้อง การใช้ Leverage ทำให้โซรอสสามารถสร้างผลกำไรได้อย่างมหาศาลจากการเคลื่อนไหวของตลาดในช่วงเวลาสั้นๆ แต่ในขณะเดียวกัน การใช้ Leverage ก็มีความเสี่ยงสูง หากตลาดเคลื่อนไหวในทิศทางที่ไม่คาดคิด การขาดทุนอาจมีขนาดมหาศาลเช่นกัน ดังนั้นการใช้ Leverage จำเป็นต้องมีกลยุทธ์และการวิเคราะห์ที่ถูกต้องแม่นยำ

 

นอกจากนี้ การตัดสินใจของโซรอสในการเก็งกำไรครั้งนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับโชคหรือการเสี่ยงเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากการวิเคราะห์เชิงลึกของสภาวะเศรษฐกิจและนโยบายการเงินของสหราชอาณาจักรในเวลานั้น โซรอสมีความสามารถในการมองเห็นแนวโน้มที่เกิดขึ้นล่วงหน้าและใช้โอกาสนี้ในการทำกำไร

 

 

 

สรุป

การทำเงินกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ในวันเดียวของจอร์จ โซรอสในเหตุการณ์ Black Wednesday เป็นหนึ่งในกรณีการใช้ Leverage ที่มีชื่อเสียงที่สุดในประวัติศาสตร์การเงิน โซรอสสามารถใช้ Leverage เพื่อขยายขนาดการลงทุนและทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของค่าเงินปอนด์ได้ในช่วงเวลาที่รัฐบาลอังกฤษต้องเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจที่ยากลำบาก เรื่องราวนี้เป็นเครื่องเตือนใจว่า Leverage สามารถเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการสร้างผลกำไร แต่ต้องใช้อย่างระมัดระวังและผ่านการวิเคราะห์ที่แม่นยำ 

 

สำหรับเทรดเดอร์ที่ชื่นชอบการเทรด Forex เชื่อได้เลยว่าการใช้ Leverage คงเป็นเรื่องที่คุ้นเคยกันอยู่แล้ว และใครที่กำลังมองหาโบรกเกอร์ที่ตอบโจทย์การเทรดของคุณ นอกจาก Leverage แล้ว IUX ยังมีเครื่องมืออีกหลายรูปแบบที่ช่วยให้เทรดเดอร์ทำกำไรได้ง่ายขึ้น รวมถึงบัญชีทดลองเทรดก่อนลงสนามจริงสำหรับมือใหม่ เป็นส่วนหนึ่งกับเราวันนี้ สมัครเลย