Bitcoin พุ่งทะลุ 89,000 ดอลลาร์: หรือชัยชนะของทรัมป์เป็นตัวเร่งราคา?
Bitcoin พุ่งทะลุ 89,000 ดอลลาร์: หรือชัยชนะของทรัมป์เป็นตัวเร่งราคา?
ราคาของ Bitcoin พุ่งทะลุ 89,000 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ทำให้ตลาดคริปโตทั่วโลกสั่นสะเทือน โดยเฉพาะหลังจากที่ Donald Trump ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ และเตรียมรับตำแหน่งในปีหน้า
ราคาที่สูงนี้แสดงให้เห็นถึงการคาดหวังเชิงบวกของนักลงทุนต่อทิศทางนโยบายการเงินที่เอื้อประโยชน์แก่คริปโตเคอเรนซี ซึ่ง Trump เคยเปลี่ยนท่าทีจากการเป็นนักวิจารณ์คริปโตมาเป็นผู้สนับสนุนอย่างชัดเจน การเปลี่ยนแปลงนี้มีส่วนทำให้ Bitcoin กลายเป็นสินทรัพย์ที่น่าสนใจอย่างมาก
การปรับเปลี่ยนท่าทีของทรัมป์: จากนักวิจารณ์สู่ผู้สนับสนุนคริปโต
ในอดีต Trump แสดงท่าทีไม่สนับสนุนคริปโตอย่างชัดเจน แต่หลังจากได้รับตำแหน่งประธานาธิบดี การประกาศนโยบายที่เป็นมิตรต่อคริปโตและแผนการสร้าง "U.S. Bitcoin Reserve" กลับได้รับเสียงสนับสนุนอย่างล้นหลาม
นอกจากนี้ การที่พรรครีพับลิกันได้ที่นั่งมากพอในสภาคองเกรสยังเพิ่มโอกาสให้เขาสามารถดำเนินนโยบายการสนับสนุนคริปโตได้โดยไม่มีข้อจำกัด ซึ่งนักวิเคราะห์หลายคนเชื่อว่านโยบายนี้จะช่วยผลักดันให้ Bitcoin มีบทบาทสำคัญในเศรษฐกิจสหรัฐฯ
The Washington Post via Getty Images
ปัจจัยหลักที่หนุนราคาของ Bitcoin ให้สูงขึ้น
1. การสนับสนุนจากสถาบันและการอนุมัติกองทุน ETF ใน Bitcoin
หนึ่งในปัจจัยหลักที่ผลักดันให้ราคาของ Bitcoin สูงขึ้น คือการสนับสนุนที่เพิ่มขึ้นจากนักลงทุนสถาบัน บริษัทขนาดใหญ่ เช่น MicroStrategy และ Tesla ที่ได้เพิ่มการถือครอง Bitcoin ของพวกเขา ซึ่งช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับสินทรัพย์นี้
นอกจากนี้ การเปิดตัวกองทุน Bitcoin ETF โดยบริษัทการเงินยักษ์ใหญ่ เช่น BlackRock และ Fidelity ทำให้การลงทุนใน Bitcoin เข้าถึงได้ง่ายขึ้น และส่งเสริมให้เกิดการมีส่วนร่วมและสภาพคล่องที่มากขึ้นในตลาดคริปโตเคอเรนซี
2. การคาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐฯ และค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งแกร่งขึ้น
แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่งภายใต้การนำของทรัมป์ ประกอบกับการลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้ส่งเสริมให้นักลงทุนพิจารณาทางเลือกอื่น ๆ อย่าง Bitcoin เมื่อค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น นักลงทุนจึงมองหาการกระจายความเสี่ยง และผลการดำเนินงานของ Bitcoin ทำให้มันเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการป้องกันความเสี่ยงจากสินทรัพย์แบบดั้งเดิม
3. การเคลื่อนไหวของ "วาฬ (Crypto Whale)"
ตามข้อมูลจาก Glassnode นักลงทุน "วาฬ" ซึ่งหมายถึงผู้ที่ถือครอง Bitcoin ในปริมาณมาก ได้ถอน Bitcoin มูลค่ากว่า 3.28 พันล้านดอลลาร์ออกจากตลาดการแลกเปลี่ยนเมื่อไม่นานมานี้ กิจกรรมนี้มักเป็นสัญญาณของกลยุทธ์การถือครองระยะยาว ซึ่งจะลดปริมาณ Bitcoin ที่หมุนเวียนอยู่ในตลาดเปิด และมักจะช่วยผลักดันให้ราคาสูงขึ้น
เมื่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนรายใหญ่เหล่านี้เพิ่มขึ้น บรรยากาศในตลาดโดยรวมก็มักจะเปลี่ยนไปในทางเดียวกัน ซึ่งมีส่วนทำให้ราคาของ Bitcoin สูงขึ้น
4. การปรับนโยบายภายใต้รัฐบาลทรัมป์
จากชัยชนะของทรัมป์ ทำให้เกิดการคาดการณ์ว่าเขาอาจจะออกนโยบายส่งเสริมการเติบโตของคริปโตเคอเรนซี เช่น การลดภาษีและการสนับสนุนการขุดคริปโตในประเทศ ซึ่งเป็นแนวทางที่แตกต่างอย่างชัดเจนจากท่าทีที่เข้มงวดของรัฐบาลของโจ ไบเดน
การเปลี่ยนท่าทีของทรัมป์ที่หันมาสนับสนุนสินทรัพย์ดิจิทัลนี้ได้สร้างความเชื่อมั่นใหม่ให้กับนักลงทุนใน Bitcoin และสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นในระบบการเงินของสหรัฐฯ
ผลกระทบของการขึ้นราคา Bitcoin ต่อคริปโตอื่น ๆ
การพุ่งขึ้นของ Bitcoin ล่าสุดยังส่งผลดีต่อคริปโตเคอเรนซีอื่น ๆ เช่นกัน โดย Ethereum เพิ่มขึ้น 7% ในขณะที่ Cardano ขยับขึ้น 4.7% และ Dogecoin กระโดดขึ้นถึง 24% นอกจากนี้ หุ้นที่เชื่อมโยงกับสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น Coinbase และ MicroStrategy ก็มีการปรับตัวขึ้นกว่า 20% ในการซื้อขายช่วงขยายเวลาทำการ
แนวโน้มขนาดที่มีใหญ่นี้สะท้อนถึงผลกระทบเชิงบวกจากการเพิ่มขึ้นของ Bitcoin และความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นจากนโยบายที่สนับสนุนคริปโตของทรัมป์
สรุป
ราคาของ Bitcoin ที่ทะลุระดับ 89,000 ดอลลาร์เป็นผลมาจากปัจจัยหลายประการ เช่น นโยบายของทรัมป์ที่มีท่าทีสนับสนุนคริปโตอย่างชัดเจน การขยับของนักลงทุนสถาบัน และการเคลื่อนไหวของกลุ่มนักลงทุนกลุ่ม "วาฬคริปโต"
การพุ่งขึ้นของราคา Bitcoin ในครั้งนี้ไม่เพียงแสดงถึงความแข็งแกร่งของมันเท่านั้น แต่ยังบ่งบอกถึงความเชื่อมั่นในตลาดคริปโตเคอเรนซีโดยรวม ซึ่งอาจทำให้ตลาดนี้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนในระยะยาวได้
หมายเหตุ: บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น มิได้เป็นคำแนะนำด้านการลงทุน