คู่มือฉบับสมบูรณ์ : การเทรดคริปโตแบบ Swing Trading

คู่มือฉบับสมบูรณ์ : การเทรดคริปโตแบบ Swing Trading

ระดับกลาง
Nov 20, 2024
เรียนรู้ทุกขั้นตอนของการเทรดคริปโตแบบ Swing Trading ด้วยคู่มือฉบับสมบูรณ์ ตั้งแต่กลยุทธ์พื้นฐานไปจนถึงการวิเคราะห์เชิงลึก เพื่อเพิ่มโอกาสทำกำไรในตลาดคริปโต

คู่มือฉบับสมบูรณ์ : การเทรดคริปโตแบบ Swing Trading

 

 

สำหรับคนที่อยู่ในตลาดคริปโตเคอร์เรนซีมาระยะหนึ่ง คงทราบดีว่าการเลือกดูเทรดการตลาดก่อนเข้าไปเทรดเป็นหนึ่งในสิ่งที่สำคัญมากๆ ที่จะกำหนดว่าเราจะเปิด Position อะไร หลายๆคนมักจะเลือกเข้าเทรดในตลาดกระทิง ไม่ก็ตลาดหมี แต่ถ้าหากในช่วงเวลาที่ตลาดมีความผันผวนสูงเราจะใช้กลยุทธ์อะไรดีหละ? เราจึงเขียนบทความนี้ขึ้นมาเพื่อพาทุกคนไปรู้จักกับ Swing Trading และจะปูพื้นฐานให้กับคุณ

 

การเทรดแบบ Swing Trading คืออะไร

 

การเทรดแบบ Swing Trading เป็นกลยุทธ์การซื้อขายที่อยู่ระหว่างการเทรดรายวันและการลงทุนระยะยาว โดยนักลงทุนจะถือครองสถานะตั้งแต่ไม่กี่วันไปจนถึงหลายสัปดาห์ วิธีนี้มุ่งเน้นการทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาในช่วงเวลาปานกลาง โดยอาศัยการวิเคราะห์แนวโน้มและจังหวะการแกว่งตัวของตลาด นักเทรดจะพยายามจับจังหวะซื้อเมื่อราคาอยู่ในจุดต่ำของรอบการแกว่งและขายออกเมื่อราคาขึ้นไปถึงจุดสูงของรอบ วิธีนี้ช่วยให้นักลงทุนสามารถทำกำไรได้บ่อยครั้งกว่าการลงทุนระยะยาว แต่ก็มีความเสี่ยงและต้องใช้เวลาติดตามตลาดมากกว่าการถือครองระยะยาว

 

การเทรดแบบ Swing Trading มีจุดเด่นอย่างไร 

 

การเทรดแบบ Swing Trading มีจุดเด่นคือ การเทรดรูปแบบนี้ คุณไม่ต้องจ้องหน้าจอทั้งวัน แค่ตรวจสอบกราฟเป็นครั้งคราวก็พอ ทำให้จัดการเวลาได้ยืดหยุ่น ขณะเดียวกันก็มีโอกาสทำกำไรดีในช่วงไม่กี่วันถึงสัปดาห์ ต่างจากเทรดรายวันที่ต้องเฝ้าติดตามตลอด หรือลงทุนระยะยาวที่ต้องรอนาน Swing Trading จึงเป็นทางเลือกที่ลงตัวสำหรับคนอยากลงทุนแต่มีเวลาจำกัด ให้โอกาสจับจังหวะตลาดและทำกำไรได้บ่อยครั้ง โดยไม่ต้องละทิ้งภาระหน้าที่หลัก



เครื่องมือและเทคนิคที่ใช้ในการเทรดแบบ Swing Trading 

 

หลักๆ แล้วเราสามารถเครื่องมือ Indicators ทั่วไปทางเทคนิคในการหาสัญญาณเข้าของ สำหรับการเทรดแบบ Swing Trading โดยเป็นการแน่นหนักไปที่การหาทิศทางของตลาด ซึ่งมีตั้งแต่การใช้ Indicators พื้นฐานอย่าง RSI และ MACD ช่วยวัดโมเมนตัมและแนวโน้มของราคาได้ ประกอบกับ Stochastic Oscillator ที่บอกความแข็งแกร่งของแนวโน้ม หรือจะเป็นการดูเส้นแนวรับและแนวต้าน (Support & Resistance) ในการคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงของราคา โดยการวิเคราะห์ว่าราคาเมื่อชนแนวรับมีแนวโน้มที่จะรีบาวน์กลับ หรือเมื่อชนแนวต้านมีแนวโน้มที่จะปรับฐานลง แต่ให้รู้เอาไว้เป็นพื้นฐานคือหลักๆแล้ว ไม่ว่าจะใช้เครื่องมืออะไรก็ตาม ต้องเน้นหนักไปที่การดูแนวน้ามของตลาด ในช่วงเวลาไม่สั้น และยาวเกินไป





เทคนิคในการเทรดแบบ Swing Trading 

 

แนะนำ Indicators ทางเทคนิค

 

  • แนวรับและแนวต้าน (Support & Resistance) : ใช้ในการคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงของราคา โดยการวิเคราะห์ว่าราคาเมื่อชนแนวรับมีแนวโน้มที่จะรีบาวน์กลับ หรือเมื่อชนแนวต้านมีแนวโน้มที่จะปรับฐานลง 

 

  • รูปแบบราคา (Price Patterns) : การใช้รูปแบบการเคลื่อนไหวของราคาที่เกิดขึ้นในอดีตเพื่อคาดการณ์แนวโน้มในอนาคต เช่น รูปแบบ Wedges หรือ Flags

 

  • Moving Average : ใช้ในการระบุแนวโน้มของตลาด โดยเฉพาะ Simple Moving Average (SMA) ที่ช่วยให้เห็นภาพรวมของการเคลื่อนไหวของราคา

 

  • MACD และ RSI : ตัวชี้วัดที่นิยมใช้ในการจับจังหวะการเข้าสู่ตลาด โดย MACD ช่วยบอกความแข็งแกร่งของแนวโน้ม ส่วน RSI ใช้ในการระบุภาวะซื้อมากเกินไปหรือขายมากเกินไป

 

  • Stochastic Oscillator : ใช้ในการบอกความแข็งแกร่งของแนวโน้มและช่วยในการตัดสินใจซื้อขายในช่วงที่ตลาดมีการแกว่งตัว

 

แนะนำกลยุทธ์การเทรด 

 

  • Breakout Strategy : การเข้าซื้อหรือขายเมื่อราคาทะลุแนวต้านหรือแนวรับ ซึ่งแสดงถึงการเริ่มต้นของแนวโน้มใหม่ เป็นกลยุทธ์ที่ช่วยให้สามารถจับจังหวะการเคลื่อนไหวของราคาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

  • Pullback Strategy : รอให้ราคาย่อลงจากแนวโน้มก่อนที่จะกลับเข้าสู่แนวโน้มเดิม เป็นวิธีที่ช่วยให้สามารถเข้าตลาดในจุดที่มีความเสี่ยงต่ำกว่า

 

  • Trend Following : กลยุทธ์นี้เน้นการซื้อขายตามแนวโน้มหลักของตลาด โดยการระบุทิศทางของราคาและทำการซื้อเมื่อราคาขาขึ้น และขายเมื่อราคาขาลง ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาในทิศทางที่คาดการณ์ไว้

 

  • Moving Average Crossover : การใช้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average) เป็นเครื่องมือในการตัดสินใจ เช่น การดูว่าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ระยะสั้นตัดผ่านค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ระยะยาว ซึ่งบ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้ม

 

แนะนำให้ใช้กลยุทธ์ Swing Trading  ในสภาพตลาดแบบใด 

 

การใช้กลยุทธ์ Swing Trading เหมาะสำหรับสภาพตลาดที่มีแนวโน้มการเคลื่อนไหวของราคาอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดมีการปรับฐานหรือย้อนกลับภายในแนวโน้มที่แข็งแกร่ง เช่น เมื่อราคาย่อตัวลงในแนวโน้มขาขึ้นหรือลงในแนวโน้มขาลง ซึ่งนักเทรดสามารถเข้าไปเปิดตำแหน่งเพื่อเก็บกำไรจากการเคลื่อนไหวในระยะสั้นถึงกลางได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ สภาพตลาดที่ไม่ผันผวนมากเกินไปจะช่วยให้การตัดสินใจในการเข้าและออกจากตลาดทำได้ง่ายขึ้น และลดความเสี่ยงจากการเกิดสัญญาณหลอกที่อาจเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่มีความผันผวนสูง

 

การเทรดแบบ Swing Trading มีข้อควรระวังอย่างไรบ้าง 

 

การเทรดแบบ Swing Trading มีข้อควรระวังหลายประการที่นักเทรดควรพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะการจัดการความเสี่ยง จากการขึ้นหรือลง อย่างรุนแรงของตลาด ดังนั้นการเทรดแบบ  Swing Trading ควรทำร่วมกับการ Stop Loss  นอกจากนี้ นักเทรดยังต้องมีความเข้าใจในความผันผวนของตลาดและติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด เพื่อปรับกลยุทธ์ให้เข้ากับสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ การเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเทรดก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะหากเลือกช่วงที่มีความผันผวนสูง อาจทำให้เกิดการขาดทุนได้ง่ายขึ้น



ท้ายบทความ

 

โดยสรุปแล้วการเทรดแบบ Swing Trading เป็นกลยุทธ์ที่ดี สำหรับนักเทรดที่ต้องการสมดุลระหว่างโอกาสในการทำกำไรและการจัดการเวลา โดยไม่ต้องติดตามตลาดตลอดเวลาเหมือนการเทรดรายวัน แต่ก็ไม่ต้องรอนานเกินไปเหมือนการเทรดแบบระยะยาว ซึ่งก่อนจะเทรดจริง ให้เราทดลองจำลองการเทรดโดยใช้บัญชีจำลอง หรือทำการ Back Test เพื่อปรับปรุงกลยุทธ์อยู่เรื่อยๆ ไม่ควรรีบเข้าไปเทรดโดยที่เรายังไม่รู้ลึกถึงการใช้กลยุทธ์ Swing Trading สุดท้ายขอให้ทุกคนประสบความสำเร็จ