DCA: กลยุทธลงทุนแบบเข้าใจง่ายที่ใครก็ทำได้
DCA: กลยุทธลงทุนแบบเข้าใจง่ายที่ใครก็ทำได้
การลงทุนอาจดูเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและน่ากังวลสำหรับหลายคน โดยเฉพาะในยุคที่ตลาดการเงินมีความผันผวนและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว หลายคนคิดว่าการลงทุนต้องใช้เงินก้อนใหญ่ ความรู้เชิงลึก หรือทักษะในการจับจังหวะตลาดที่แม่นยำ แต่ในความจริงแล้ว การลงทุนอาจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เพราะในปัจจุบันมีวิธีการลงทุนที่เข้าใจง่ายและเหมาะสำหรับทุกคนอย่าง DCA (Dollar-Cost Averaging) หรือที่รู้จักกันว่า การลงทุนแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน
DCA เป็นกลยุทธการทยอยลงทุนด้วยจำนวนเงินที่เท่ากันในช่วงเวลาที่กำหนด เช่น รายเดือนหรือรายสัปดาห์หรือแม้แต่ไตรมาส วิธีนี้ช่วยลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด และช่วยให้คุณเริ่มต้นลงทุนได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการจับจังหวะตลาดหรือราคาสินทรัพย์ในช่วงเวลานั้น เพราะเป้าหมายหลักของ DCA คือการสร้างวินัยในการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ และช่วยให้คุณสามารถจัดการการเงินได้อย่างมั่นคงในระยะยาว
DCA คืออะไร?
หากจะอธิบายอย่างง่าย DCA หรือ Dollar-Cost Averaging ก็คือกลยุทธ์การลงทุนที่คุณจะทยอยซื้อสินทรัพย์ไม่ว่าจะเป็น หุ้น กองทุนรวม หรือ หรือกองทุน ETF ในจำนวนเงินที่เท่ากันในช่วงเวลาที่กำหนด โดยไม่สนใจว่าราคาสินทรัพย์ในช่วงเวลานั้นจะสูงหรือต่ำ หลักการนี้ช่วยเฉลี่ยต้นทุนการลงทุนในระยะยาว ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาดและสร้างนิสัยในการลงทุนที่ต่อเนื่อง
ลองจินตนาการว่าถ้าคุณต้องการลงทุนในกองทุนรวม แต่ไม่แน่ใจว่าราคา ณ ตอนนั้นเหมาะสมที่จะซื้อหรือไม่ การลงทุนแบบ DCA ช่วยให้คุณซื้อกองทุนนั้นได้ในราคาที่แตกต่างกัน เมื่อราคาสูงคุณจะซื้อได้จำนวนที่น้อย แต่เมื่อราคากองทุนลดลงคุณจะซื้อได้มากขึ้น วิธีนี้ทำให้ต้นทุนเฉลี่ยของคุณลดลงโดยธรรมชาติ
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับกองทุน ETF คลิก ETFs: เปิดประตูสู่การลงทุนระดับโลก
ทำไม DCA ถึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มลงทุน?
หนึ่งในจุดเด่นของกลยุทธ์การลงทุนแบบ DCA คือความเรียบง่าย คุณไม่จำเป็นต้องมีความรู้ลึกซึ้งเกี่ยวกับตลาดการเงินหรือทักษะในการจับจังหวะการขึ้นลงของตลาด คุณเพียงแค่ต้องลงทุนในจำนวนเงินที่กำหนดไว้อย่างสม่ำเสมอ วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นการลงทุนโดยไม่ต้องเผชิญกับความกดดันในการวิเคราะห์ในเชิงลึกหรือคาดการณ์ตลาด
สมมติว่าคุณเริ่มต้นลงทุนทุกเดือน จำนวนเงินที่ลงทุนจะสะสมไปเรื่อยๆ โดยไม่ต้องสนใจว่าตลาดจะขึ้นหรือลงในช่วงเวลานั้น การลงทุนแบบนี้ทำให้คุณสามารถจัดการการเงินได้ง่ายขึ้น เพราะเงินที่ใช้ลงทุนจะถูกจัดสรรจากรายได้ประจำของคุณอย่างเหมาะสม
ข้อดีของกลยุทธ DCA
-
ลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด
การลงทุนแบบทยอยซื้อช่วยลดความเสี่ยงจากการซื้อในราคาสูงเกินไป เพราะต้นทุนเฉลี่ยจะลดลงเมื่อเวลาผ่านไป -
ไม่ต้องคอยจับจังหวะตลาด
นักลงทุนส่วนใหญ่ไม่สามารถคาดการณ์ตลาดได้อย่างแม่นยำ และ DCA ช่วยให้คุณไม่ต้องเสียเวลาหรือเครียดกับการพยายามจับจังหวะตลาด -
สร้างวินัยทางการเงิน
การลงทุนแบบ DCA เป็นเหมือนการออมเงินในรูปแบบหนึ่ง คุณจะคุ้นเคยกับการจัดสรรเงินเพื่อการลงทุนอย่างต่อเนื่อง -
เหมาะสำหรับทุกคน
ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่หรือมีประสบการณ์ DCA เป็นวิธีที่เข้าใจง่ายและใช้งานได้จริง
ข้อเสียของ DCA
แม้ว่า DCA จะมีข้อดีมากมาย แต่ก็มีบางประเด็นที่ควรพิจารณาก่อนลงทุน
-
ผลตอบแทนอาจต่ำกว่าการลงทุนเงินก้อนในบางสถานการณ์
หากคุณลงทุนเงินก้อนในช่วงที่ตลาดอยู่ในขาลงและราคาสินทรัพย์ต่ำ คุณอาจได้ผลตอบแทนที่ดีกว่า -
ต้องการความต่อเนื่องและวินัย
หากคุณหยุดลงทุนกลางคันหรือเปลี่ยนแปลงแผนการลงทุนบ่อยๆ อาจทำให้ไม่ได้รับผลประโยชน์เต็มที่จากวิธีนี้ -
ไม่เหมาะกับสินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูงมาก
ในสินทรัพย์บางประเภท เช่น สกุลเงินดิจิทัล การผันผวนอาจทำให้วิธีการนี้ไม่ได้ผลอย่างที่คาดหวัง
เปรียบเทียบ DCA กับการลงทุนแบบอื่น
ตลาดหุ้นนิวยอร์คในช่วงภาวะขาลงในปี 2020 จากวิกฤติโควิด ที่มารูปภาพ Spencer Platt/Getty Images
DCA มีความแตกต่างจากการลงทุนแบบเงินก้อน และการลงทุนด้วยการจับจังหวะตลาดอย่างชัดเจน
-
การลงทุนเงินก้อน
เป็นวิธีที่คุณนำเงินทั้งหมดไปลงทุนในครั้งเดียว หากตลาดอยู่ในช่วงขาขึ้น วิธีนี้จะให้ผลตอบแทนสูงกว่าการลงทุนแบบ DCA แต่ในทางกลับกัน หากตลาดอยู่ในขาลง คุณอาจขาดทุนหนัก
-
การเข้าซื้อแบบจับจังหวะตลาด
เป็นวิธีที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญและการคาดการณ์ที่แม่นยำ ซึ่งไม่เหมาะสำหรับนักลงทุนทั่วไป เพราะมีความเสี่ยงสูง
- การเทรด CFD
การเทรด CFD คือการเก็งกำไรจากความเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์ โดยไม่ต้องซื้อสินทรัพย์จริง เช่น หุ้น ทองคำ หรือดัชนีตลาด วิธีนี้ช่วยให้นักลงทุนสามารถทำกำไรได้ทั้งในช่วงตลาดขาขึ้นและขาลง อีกทั้งยังใช้ เลเวอเรจ (Leverage) เพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทน แต่เพิ่มความเสี่ยงได้เช่นกัน หากการคาดการณ์ผิดพลาด คุณอาจสูญเสียมากกว่าทุนที่ลงทุน วิธีนี้จึงเหมาะกับผู้ที่มีความรู้และประสบการณ์ในตลาดสินทรัพย์มากพอสมควร
ตัวอย่างแพลตฟอร์มที่น่าสนใจสำหรับการเทรด CFD คือ IUX ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการซื้อขายและการลงทุนที่ให้บริการในหลากหลายสินทรัพย์ เช่น Forex, Cryptocurrency, สินค้าโภคภัณฑ์ และดัชนี IUX มีจุดเด่นที่เลเวอเรจสูง ค่าสเปรดต่ำ เหมาะสำหรับทั้งนักลงทุนมือใหม่และเทรดเดอร์มืออาชีพที่ต้องการเก็งกำไรอย่างมีประสิทธิภาพในตลาดการเงินที่มีความหลากหลาย
สมัครเทรดกับ IUX คลิกที่นี่
ทำไมควรเลือก DCA?
DCA เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่ต้องการลดความเสี่ยงและสร้างวินัยในการลงทุนที่ต่อเนื่อง แตกต่างจากการลงทุนแบบเงินก้อน การจับจังหวะตลาด และการเทรด CFDs เพราะ DCA ไม่ต้องพึ่งพาการวิเคราะห์ที่ซับซ้อนหรือการคาดการณ์ที่แม่นยำ จึงเหมาะสำหรับทั้งนักลงทุนมือใหม่และผู้ที่มีประสบการณ์แล้วที่ไม่ต้องการวิเคราะห์ตลาดในทุกเวลา
DCA เหมาะกับใคร ?
DCA เหมาะสำหรับทุกคน โดยเฉพาะ:
-
ผู้ที่มีรายได้ประจำ
การลงทุนแบบนี้ช่วยให้คุณสามารถจัดการการเงินได้ง่ายขึ้น เพราะสามารถกำหนดงบประมาณการลงทุนได้อย่างชัดเจน -
นักลงทุนมือใหม่
ผู้ที่ยังไม่มีความรู้ลึกซึ้งเกี่ยวกับตลาดการเงินสามารถเริ่มต้นได้ง่ายโดยไม่ต้องกลัวความซับซ้อน -
ผู้ที่ต้องการลงทุนระยะยาว
DCA เหมาะสำหรับผู้ที่มีเป้าหมายการลงทุนระยะยาว เช่น การเก็บเงินเพื่อการเกษียณ
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ เทคนิคการวางแผนการเงินและการบริหารจัดการความเสี่ยงในการเทรดหุ้น
สรุป
DCA เป็นวิธีการลงทุนที่เรียบง่ายและมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับทุกคนที่ต้องการเริ่มต้นสร้างความมั่นคงทางการเงิน ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นหรือผู้ที่มองหากลยุทธ์การลงทุนที่ลดความเสี่ยงและช่วยสร้างผลตอบแทนในระยะยาว
สิ่งสำคัญที่สุดคือการมีวินัยและความสม่ำเสมอ หากคุณพร้อมที่จะเริ่มต้น ลองพิจารณา DCA เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยให้การลงทุนกลายเป็นเรื่องง่ายและเหมาะสมกับเป้าหมายทางการเงินของคุณในอนาคต
หมายเหตุ: บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลสำหรับการศึกษาในเบื้องต้นเท่านั้น มิได้มีเจตนาในการชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุน